Skip to content
Jump to main navigation and login
Nav view search
Navigation
Home
About us
How to
reviews
แฟรนไชส์ใหม่
Exhibition
Seminars
Contact Us
สมาคม แฟรนไชส์ไทย
Franchisors
Search
คุณอยู่ที่:
Home
15 คำถามที่ถูกถามบ่อยเรื่องแฟรนไชส์
รายละเอียด
ฮิต: 58399
14
คำถามที่ถูกถามบ่อย
15.
อนาคตของธุรกิจแฟรนไชส์จะเป็นอย่างไร ?
ช่วงที่กำลังจะเปิดตลาดอาเซียน แฟรนไชส์น่าจะเป็นโอกาสทอง เพราะการขยายธุรกิจได้ใกล้ ควรใช้ระบบแฟรนไชส์ ดังนั้นหากใครก็ตามที่เอาจริงเอาจังในการสร้างระบบแฟรนไชส์ ก็จะเกิดจุดได้เปรียบในการขยายธุรกิจ
14.
ทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จ
?
1.
ทำตามกฎ
ผู้ซื้อแฟรนไชส์ที่ล้มเหลวส่วนมากก็คือผู้ที่แหกกฎ
คือ
ไม่เดินตามกติกามาตรฐานที่ตั้งเอาไว้เช่น
สมมุติเปิดร้านแฟรนไชส์ฟ้าสฟู้ด
แต่เห็นว่าส้มตำไก่ย่างขายดี
ก็เอาเข้ามาขายในร้านด้วย
ทำให้ผิดคอนเซ็ปท์และไม่ประสบความสำเร็จในที่สุด
อย่างนี้เป็นต้น
ดังนั้นขั้นแรกของการทำแฟรนไชส์ให้สำเร็จก็คือการทำตามระบบที่พิสูจน์ว่าประสบความสำเร็จมาแล้วอย่างตั้งใจ
ซึ่งจะมีโอกาสได้รับความสำเร็จมากกว่าการติดทำอะไรใหม่ๆเอง
หรือกรณีที่คิดสิ่งก็ควรมีการปรึกษากับบริษัทแม่ก่อน
2.
ลงมือทำเอง
ผู้ซื้อแฟนรไชส์จำนวนมากลงทุนซื้อแฟรนไชส์เพราะมีเงินเมื่อซื้อไปแล้วก็จ้างคนมาทำหรือให้ญาติพี่น้องมาทำ
แต่สถิติของผู้ที่ทำแฟรนไชส์ได้ดีกว่าจะเป็นเจ้าของลงมือทำเอง
3.
ตั้งใจจริง
ความสำเร็จของธุรกิจทุกชนิด
จะประสบความสำเร็จได้ก็เพราะมีความตั้งใจจริง
และรักการทำธุรกิจนั้นๆ
ซึ่งจะทำให้มีความอดทนในการเอาชนะอุปสรรค
เช่นเดียวกับธุรกิจแฟรนไชส์
ถึงแม้ว่าบริษัทแม่จะช่วยสนับสนุนก็ตาม
แต่ก็ย่อมต้องใช้ความพยายามและความเอาจริงเอาจัง
ธุรกิจจึงจะอยู่รอดได้
4.
ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี ผู้ที่มีนิสัยมองโลกในแง่ร้าย
หรือเป็นคนขวางโลก
อาจไม่เหมาะกับการทำแฟรนไชส์เพราะจะทำให้การทำร่วมทีมเป็นปัญหาการทำธุรกิจในนี้
มีจุดที่เปราะบางที่อาจแตกหักได้ง่าย
ลักษณะชองการมีทัศนคติในเชิงบวกจะช่วยให้ปัญหาผ่านพ้นไปได้เพราะหลายครั้งที่การแยกทางกัน
เกิดขึ้นจากนิสัยส่วนตัวเล็กๆน้อยๆ
ทั้งๆที่กิจการกำลังทำเงิน
5.
มีวินัยทางการเงิน
ประกอบการหลายคนที่มีครบทั้ง
5
ข้อ
ที่กล่าวมา
แต่ปรากฏว่า มีนิสัยใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
ทำให้ขาดเงินในการทำธุรกิจต่อ
ทำให้กิจการต้องจบลงอย่างน่าเสียดาย
13.
คนที่ซื้อแฟรนไชส์ไปแล้วทำสำเร็จมีอยู่กี่ราย
?
ตอบ
ยังไม่มีการสำรวจเรื่องนี้อย่างชัดเจน
แต่ถ้ามีโอกาสเหมาะนิตยสารโอกาสธุรกิจ
&
แฟรนไชส์
จะทำการสำรวจเรื่องนี้อย่างจริงจัง
รวมทั้งเรื่องอื่นๆที่คนกำลังสนใจด้วย
12.
ปัญหาของธุรกิจแฟรนไชส์
คืออะไร
?
ตอบ
ปัญหาที่พบมากที่สุดในเรื่องของแฟรนไชส์ก็คือ
1.
ความเข้าใจผิดของผู้ซื้อแฟรนไชส์
คิดว่าเมื่อซื้อแฟรนไชส์ไปแล้วบริษัทแม่จะต้องทำกำไรให้เหมือนกับการเล่นหุ้น
ที่จะต้องได้รับเงินปันผลแน่ๆ
โดยไม่ต้องทำอะไรมาก
ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดมากที่สุดที่จริงแล้วการซื้อแฟรนไชส์นั้นจะเหมือนกับการซื้อความรู้ในการก่อตั้งกิจการนั้นๆ
เสมือนกับว่าสมัยก่อนมีการสืบทอดกิจการโดยผ่านลูกหลานและเครือญาติ
แต่แฟรนไชส์จะเป็นการถ่ายทอดไปสู่คนที่ไม่รู้จักให้ก่อตั้งธุรกิจและดำเนินการไปได้โดยมีค่าตอบแทนเป็นค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์เป็นการแลกเปลี่ยน
ดังนั้นการซ้อแฟรนไชส์จะสำเร็จได้กำไรหรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้ดำเนินการเอง
เมื่อได้รับความช่วยเหลือจนก่อตั้งกิจการและดำเนินไปได้แล้ว
แต่จะได้กำไรหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความขยันความเอาใจใส่ของผู้ซื้อแฟรนไชส์เท่านั้น
2.
การพูดถึงจุดคุ้มทุน
ผู้ที่ขายแฟรนไชส์ส่วนมากตอนที่เสนอขายแฟรนไชส์มักจะโฆษณาชวนเชื่อว่า
1
ปีคือทุน หรือไม่กี่เดือน ก็จะคืนทุนแล้ว
เพื่อทำให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ตัดสินใจง่ายขึ้น
แต่สิ่งนี้คือปัญหาเพราะความจริงแล้วไม่มีใครจะล่วงรู้เหตุการณ์ณ์ในวันข้างหน้าได้
ซึ่งในต่างประเทศ ที่มีกฎหมายเกี่ยวกับแฟรนไชส์
ห้ามพูดถึงการคืนทุนเพราะถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่เป็นความจริง
3.
ก่ารเลือกแฟรนไชส์ซี่ผิด
มีแฟรนไชส์จำนวนมากที่เร่งการขายแฟรนไชส์เพื่อเปิดสาขาให้ครอบคลุมตามแผนหรือต้องการเงินก้อนจากค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์
แต่ต่อมาพบว่าผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์บางคนไม่เหมาะสมกับการทำธุรกิจนั้นหรือไม่เอาใจใส่ในการดำเนินการจริง
ทำให้การทำแฟรนไชส์ต้องถอยหลังไปที่จุดตั้งต้น
โดยการกำหนดคุณสมบัติที่มีแนวโน้มว่า
จะเป็นคนที่ต้องการทำจริงมากกว่า
แต่มีเงินมาซื้อแฟรนไชส์เท่านั้น
4.
การมุ่งรายได้จากค่าแฟรนไชส์ฟี
หรือค่าธรรมเนียมแรกเข้าที่เก็บมักจะเป็นหลักหมื่นและหลักแสน
ซึ่งทำให้เป็นจุดจูงใจให้บางคนมุ่งหวังรายได้ตรงนี้
โดยปราศจากความแข็งแกร่งของธุรกิจและไม่มีระบบงาน
และระบบการให้การสนับสนุนที่ดีกับแฟรนไชส์ซี่
คนกลุ่มนี้ทำให้ระบบของธุรกิจแฟรนไชส์ไม่น่าเชื่อถือยังมีปัญหาข้ออื่นๆอีก
แต่ที่นำเสนอนี้ จะพูดถึงเฉพาะในประเด็นที่สำคัญ
11.
จะเลือกซื้อแฟรนไชส์ต้องดูอะไรบ้าง
?
ตอบ
การเลือกซื้อธุรกิจที่ดีไม่ใช่เรื่องยาก
แต่ผู้ที่จะซื้อจะต้องมีการทำการบ้านมาก่อนอย่างน้อยที่สุดต้องไปดูร้านที่เปิดดำเนินการอยู่แล้ว
โดยเฉพาะร้านของแฟรนไชซี่และมีการสอบถามหรือศึกษาเกี่ยวกับการลงทุนที่ใช้
จำนวนลูกค้าที่เข้าร้านแต่ละวัน
รายได้
ค้าใช้จ่าย
และผลกำไร
หากไม่สามารถได้คำตอบโดยตรงจากเจ้าของร้าน
คุณก็ต้องลองประเมินจากจำนวนที่ลูกค้าเข้าร้านและหักประมาณการค่าใช้จ่ายคุณก็จะประมาณยอดกำไรแต่ละเดือนออกมาได้
แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ
ต้องไม่ศึกษาเพียงร้านเดียว
เพราะถ้าคุณไปร้านเดียวอาจจะเจอร้านที่ไม่ดี
คุณก็จะตัดสินใจว่าธุรกิจนั้นไม่ดี
ซึ่งไม่ถูกต้อง
แต่คุณควรที่จะไปตรวจเยี่ยมให้มากที่สุด
เพื่อให้ได้ข้อมูลของร้านที่ดีและร้านที่ไม่ดี
ที่ทำให้สามารถประเมินออกมาได้ใกล้เคียงความจริงที่สุด
สมมุติ ว่าคุณไปเยี่ยมทั้ง
10
ร้าน ปรากฏว่า
8
ร้านดี
2
ร้านไม่ดี คุณก็มั่นใจว่าธุรกิจนี้ใช้ได้
แต่หากได้ผลตรงกันข้ามคุณก็จะรู้ได้ด้วยตัวเองว่า
ไม่น่าเสี่ยง อย่างนี้เป็นต้น
แต่ในกรณีที่ยังไม่มีร้านแฟรนไชซี่เปิดขั้นมากนัก
คุณก็ลองหาข้อมูลจากร้านสาขาที่เปิดอยู่
หรือถ้าร้านที่เปิดอยู่ยังมีน้อย
คุณก็ควรหาข้อมูลจากธุรกิจแบบเดียวกัน
จงจำไว้ว่า
10
ปากว่าไม่เท่าตาเห็น
และการตัดสินใจที่ดีที่สุดก็คือการหาข้อมูลประกอบกับการตัดสินใจของคุณเอง
10.
แล้วแฟรนไชส์ประเภทไหนมีการขายแฟรนไชส์มากที่สุด
?
ตอบ
ประเภทโรงเรียน เราจะเห็นว่า
โรงเรียนมีทางเลือกหลายอย่าง
เช่น
โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษมีอยู่หลายราย
เช่น
อีเอฟอิงลิช เฟิร์ส
,
ไดเร็กอิงลิช
,
หรือ
โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก
ก็มีสมาร์ทอิงลิช
,
ฟันอิงลิช
หรือโรงเรียนคณิตคิดเร็ว
เช่น
คุมอง ไดนามิค แมทช์
,
โรงเรียนสอนดนตรีเคพีเอ็น
มิวสิค
โรงเรียนสอนศิลปะเด็กอาร์ตติโน
โรงเรียนสอนภาษาจีนโอเคแอลเอส
รวมๆแล้วมากกว่า
20
รายที่เป็นทางเลือก
และใน
2
ปีที่ผ่านมา
มีกลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์ด้านความงาม
และสปาเกิดขึ้นมากพอๆกับกลุ่มของการศึกษา
คือประมาณ
20
ราย ทำให้ผู้ลงทุนมีโอกาสเลือกได้มาก
เช่น
เฟส แอนด์ เฟิร์ม
,
สิเรียมบิ้วตี้
,
แคทรียา คอสเมด
,
ดร.สมชาย
,
คริสตี้ฟรองค์ ฯลฯ
9.
แฟรนไชส์อาหาร
มีการขายแฟรนไชส์มากที่สุดใช่หรือไม่
?
ตอบ
ไม่ใช่
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันมากแฟรนไชส์อาหารมีมากก็จริง
แต่ถ้าเป็นรายที่มีชื่อเสียงเช่น
เคเอฟซี
พิซซ่าฮัท สตาร์บัคส์ ดังกิ้นโดนัท
เป็นต้น จะเป็นแฟรนไชส์ที่ซื้อมาจากต่างประเทศ
แต่เมื่อมาอยู่ในไทย
บริษัทที่ซื้อเข้ามาจะขยายสาขาเอง
ดังนั้นร้านที่เราเห็นอยู่จะเป็นร้านสาขาของบริษัทใหญ่ทั้งหมด
ไม่ได้ขายต่อให้รายย่อย
ถึงแม้ว่าในไดเร็กทอรี่เล่มนี้จะมีรายชื่อของอาหารมากที่สุด
แต่ก็ยังไม่สามารถประเมินผลเวลานี้ได้
เพราะกิจการที่เรานับควรจะมีความยั่งยืนเกิน
5
ปีขึ้นไป
8.
จำนวนของคนที่ซื้อแฟรนไชส์ที่ไม่ประสบความสำเร็จมีเท่าไหร่
?
ตอบ
ผู้ซื้อแฟรนไชส์ไปแล้วไม่ประสบความสำเร็จ
ยังไม่มีการสำรวจจริงออกมา
ดังนั้น
จังไม่มีใครให้คำตอบนี้ได้ถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม
หากเปรียบเทียบระหว่างการลงทุนด้วยตัวเองโดยลำพัง
กับการซื้อแฟรนไชส์กับการซื้อแฟรนไชส์ไปรอดสูงกว่า
7.
จำนวนของแฟรนไชส์ที่ไม่ประสบความสำเร็จมีเท่าไหร่
?
ตอบ
ในแต่ละปีที่นิตยสารของเราได้ทำการสำรวจบริษัทที่ทำแฟรนไชส์เพื่อจัดทำไดเร็กทอรี่นั้นพบว่า
จะมีแฟรนไชส์ที่หยุดทำไปแล้ว
หรือหยุดการขายไปประมาณ
20
ราย
6.
อะไรคือสาเหตุ
ที่ทำให้ผู้ขายแฟรนไชส์เติบโตไม่เกิน
20%?
ตอบ
ในด้านของผู้ขายแฟรนไชส์
คาดว่าไม่เกินกว่า
20%
ถึงแม้ว่าในสายตาที่เรามองเห็นดูเหมือนว่ามี่แฟรนไชส์เกิดขึ้นเยอะมากในแต่ละปี
แต่อย่าลืมว่าแฟรนไชส์ที่หยุดไปแล้วหรือหายไปก็มีไม่น้อยเช่นกัน
ดังนั้นอัตราเพิ่มขึ้นในแต่ละปีน่าจะอยู่ที่ประมาณ
20%
มีสาเหตุหลายข้อที่ทำให้ด้านผู้ขายแฟรนไชส์เติบโตไม่เร็วนัก
แต่สาเหตุหลักคือความไม่แข็งแรงทางธุรกิจของบริษัทที่ขายแฟรนไชส์
ขาดความพร้อมในการให้การสนับสนุนแฟรนไชซี่
จนประสบความสำเร็จ
บริษัทแม่มีปัญหาด้านเงินทุนการเปลี่ยนนโยบายใหม่ไม่ขายแฟรนไชส์
และที่สำคัญที่สุดคือ ความสามารถในการบริหารของผู้บริหาร
5.
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้การซื้อแฟรนไชส์เติบโตมากกว่า
40%?
ตอบ
1.
ผู้ที่มีธุรกิจอยู่แล้ว
มีความต้องการที่จะลงทุนธุรกิจอื่นเพิ่มเติม
2.
มีกลุ่มที่ต้องการเป็นเจ้าของกิจการเป็นจำนวนมาก
3.
นอกจากนี้แล้ว
ผู้ที่ขายแฟรนไชสืต่างมีนโยบายขยายสามสาขาเกือบเท่าตัว
อย่างเช่นกลุ่มคอนวีเนียนสโตร์ ในแต่ละปีมีนโยบายขยายเพิ่มนับหลายร้อยสาขา
หรือกลุ่มแฟรนไชส์ที่เกิดใหม่ อย่างเช่น เคพีเอ็นพลัส ก็ต้องการมากว่า
10
เท่าตัวเป็นต้น
4.
นโยบายการส่งเสริมเอส เอ็ม อี
ของภาครัฐที่ให้ความช่วยเหลือในกิจการขนาดกลาง-ขนาดย่อม
ทำให้ธุรกิจแฟรนไชส์ติดกลุ่มที่ได้รับความช่วยเหลือด้วยทำให้ตัวเลขการเติบโตด้านแฟรนไชซี่สูงลิ่ว
ปัจจัยเหล่านี้ทำให้กลุ่มของผู้ซื้อแฟรนไชส์หรือที่เรียกว่า แฟรนไชซี่
มีการขยายตัวมากกว่า
40%
ของ...
4.
อัตราการเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์มีเท่าไหร่
?
ตอบ
การเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์ต้องแบ่งออกเป็น
2
ด้าน คือ
ด้านผู้ซื้อแฟรนไชส์และด้านผุ้ขายแฟรนไชส์
-
ด้านผู้ซื้อแฟรนไชส์นั้นมีการเติบโตสูงมากว่า
40%
-
ด้านของผู้ขายแฟรนไชส์ คาดว่าไม่เกินกว่า
20%
3.
เป็นแฟรนไชส์ของคนไทยจำนวนเท่าไหร่ของต่างประเทศ
?
ตอบ
ในจำนวนนี้ประมาณ
70%
เป็นของคนไทย อีกประมาณ
30%
เป็นของต่างประเทศ
2.
จำนวนธุรกิจแฟรนไชส์ในไทยมีเท่าไหร่
?
ตอบ
จำนวนธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศไทย ณ ปัจจุบันจะอยู่ในช่วง
200-400
ราย
แต่ธุรกิจแฟรนไชส์มีก่ารเข้า-ออกเร็ว จะเหลือที่มีอายุเกิน
5
ปี น่าจะประมาณ
200-250
ราย
1.
ตอนนี้แฟรนไชส์อะไรมาแรง
?
ตอบ
เป็นคำถามที่ตอบยาก เพราะไม่มีอะไรมาแรง
แต่ถ้าหมายถึงจำนวนแฟรนไชส์ที่มีมากจะมีคำตอบตามลำดับดังนี้ คือ กลุ่มการศึกษา
กลุ่มธุรกิจความงาม กลุ่มร้านกาแฟ และกลุ่มอาหาร
ใบสมัคร/ใบสั่งซื้อ
ใบสมัครสัมมนาแฟรนไชส์/ตารางเรียน
ใบสมัคร Training&Coaching
ใบสั่งซื้อหนังสือคู่มือสร้างธุรกิจแฟรนไชส์
ใบสั่งซื้อไดเร็กทอรี่
ใบจองคู่มือแต่งร้าน
ใบเสนอราคาประชาสัมพันธ์
banner
customer56
customer56_2
ad_company